BACK TO EXPLORE

ข้าวแช่...เมนูสุดละเมียดประจำฤดูร้อนกลับมาที่ OneSiam อีกครั้ง

ดับความร้อน เติมรสชาติความเป็นไทยในช่วงเวลาแห่งปี

เฝ้ารอมาทั้งปีกับเมนูสุดพิเศษที่หากินยาก เพราะต้องใช้ฝีมือและความตั้งใจกว่าจะออกมาเป็นสำรับ “ข้าวแช่” พร้อมเสิร์ฟ เห็นแล้วสวยงามดีต่อใจ ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ในครอบครัวเท่านั้น เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ก็โหยหารสชาติไทยดั้งเดิมแบบนี้จนต้องรีบมาที่สยามพารากอนกับ 4 ร้านดังสร้างสรรค์เมนูข้าวแช่ออกมาได้อลังการสวยงามตามตำรับชาววัง

วิธีการกินข้าวแช่ตามแบบโบราณ

จากหลายคำบอกเล่าของผู้หลักผู้ใหญ่จะมีหลักสำคัญๆ คือไม่ให้ข้าวและน้ำลอยดอกไม้ขุ่นจากเครื่องเคียงหรือกับข้าว ดังนั้นต้องตักข้าวแช่ 1 คำแล้วค่อยตามด้วยเครื่องเคียงชนิดใดก็ได้ หรือเครื่องเคียงก่อนแล้วค่อยตามด้วยข้าวแช่ จะไม่ตักเครื่องเคียงลงไปในชามข้าวหรือตักไว้ในช้อนเดียวกันกับข้าวแช่ วิธีนี้จะทำให้น้ำข้าวแช่ใส เป็นแนวทางการกินข้าวแช่ที่ถูกต้องตามวิธีของคนสมัยก่อน

ล้อมวงกันเข้ามาที่...

Khao Dessert Café ชั้น G สยามพารากอน

หลังจากอิ่มเอมกับขนมไทยที่ร้านนี้มาตลอด หน้าร้อนปีนี้เชฟวิชิต มุกุระ นำข้าวแช่ที่เป็นอาหารของคนไทยภาคกลาง เสิร์ฟมาอย่างอลังการด้วยข้าวแช่ที่ใช้ดอกชมนาดหรือดอกข้าวใหม่ พร้อมเครื่องเคียงอย่างลูกกะปิที่ผัดด้วยความประณีต ไร้กลิ่นคาวจนได้รสชาติเข้มข้น หัวหอมแดงสอดไส้ ใช้ปลาช่อนนามาผัดจนแห้งผสมกับไข่แดงนำมาสอดไส้ชุบแป้งข้าวเจ้าทอดจนกรอบ ในจานยังโดดเด่นด้วยสีสันของไข่แดงเค็มไชยาชุบแป้งทอดกรอบ หัวไชโป๊วฝอยผัดจนเส้นใส รสชาติหวานกำลังดีและหมูฝอยรสกลมกล่อม กินแกล้มกับผักสดที่แกะสลักอย่างละเมียดละไมอย่างมะม่วงมันอมเปรี้ยว เซ็ตนี้ราคา 690 บาท สำหรับ 2 ท่านอิ่มท้องแน่นอน โดยมาสัมผัสความอร่อยได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤษภาคม 2562 เท่านั้น




Nara ชั้น G สยามพารากอน

เซ็ตข้าวแช่ที่เมื่อยกมาเสิร์ฟแล้วต้องชมเลยว่าสวยและมีความเป็นไทยที่ออกแบบการจัดวางมาอย่างดี แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของไทยเหมือนกับหาบเร่โบราณย่อส่วน ข้าวแช่ใส่มาในชามเบญจรงค์ เพียงแค่ตักคำแรกจะรู้สึกได้ถึงความหอมของเทียนหอม กลิ่นดอกไม้ในฤดูร้อนต่างๆ กระจายไปทั่วประสาทรับรส จากนั้นตามด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ที่ร้าน Nara ทำได้น่าประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิชิ้นพอดีคำทำจากปลาช่อนย่าง ตะไคร้ กระชาย หัวหอม กะปิ หัวกะทิปั้นแล้วชุบกับไข่และแป้งสาลีทอด สลับกินคู่กับหอมแดงยัดไส้ พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอยและปลาผัดหวาน รวมทั้งผักสดแกะสลัก และที่เพิ่มความสดชื่นยิ่งกว่าในเซ็ตราคา 425 บาทนี้ยังมีเครื่องดื่มอย่าง “ทิพย์นารา” รสชาติหวานกลมกล่อมจากแตงโม น้ำมะพร้าว ไซรัปที่มาในขวดหรูให้สามารถดื่มพร้อมกับแตงโมชิ้นเล็กๆ ในแก้ว ข้าวแช่เซ็ตนี้จึงเป็นความรู้สึกดีที่ลืมไม่ลงจริงๆ




BOMBYX ชั้น M สยามพารากอน

เลื่องชื่อในความอร่อยทุกปีต้องแวะมาชิม “ข้าวแช่ จิม ทอมป์สัน” ข้าวแช่สูตรชาววังประจำฤดูร้อนที่ยังคงทำตามวิธีโบราณ ใช้ข้าวเสาไห้ 2 สี ทั้งสีขาวและสีครามจากดอกอัญชันต้มแล้วขัดด้วยมือกับกระชอนไม้ไผ่ นึ่งจนเม็ดข้าวสุกแช่มาในน้ำลอยดอกมะลิและดอกชมนาดร่ำด้วยควันเทียนหอม เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 6 ชนิด ได้แก่ ลูกกะปิชุบแป้งทอด นำกะปิมาโขลกละเอียดเคล้าความหอมของกระชายและเครื่องปรุง พริกหยวกยัดไส้ รสชาติเผ็ดปานกลางอัดแน่นด้วยไส้กุ้งและหมูสับ ห่อด้วยแหไข่เป็ดอย่างประณีต หอมแดงยัดไส้ ที่ซ่อนเนื้อปลาช่อนแดดเดียวโขลกละเอียด หมูกับปลากุเลาชุบแป้งทอด ไชโป๊วผัดไข่และปลายี่สนผัดหวานแนมด้วยผักและผลไม้สด ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยข้าวเหนียวมะม่วง ของหวานหน้าร้อนที่พลาดไม่ได้ในราคาชุดละ 550+ บาท สำหรับรับประทานในร้านหรือสั่งกลับบ้าน และชุดละ 850+ บาท สำหรับกิฟท์เซ็ตบรรจุในชะลอม โดยสามารถมาลองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายนนี้



The Mandarin Oriental Shop ชั้น G สยามพารากอน

เมนูคลายร้อนอย่าง “ข้าวแช่” ที่ The Mandarin Oriental Shop นำเสนอมาในเดือนเมษายน 2562 เดือนที่ร้อนที่สุดของเมืองไทยด้วยตำรับชาววังที่เสิร์ฟด้วยข้าวหอมมะลิแช่น้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียน  กลมกล่อมไปกับเครื่องเคียงที่หลากหลาย ได้แก่ ลูกกะปิทอด ไข่เค็มทอด หมูฝอย ไชโป๊วผัดหวาน หอมแดงสอดไส้เนื้อปลา พริกหยวกสอดไส้กุ้งและเนื้อหมูผสมสมุนไพร ครบเครื่องด้วยผักและผลไม้สดแกะสลักอย่างประณีต