10 เหตุผลที่ OneSiam เป็นเดสติเนชั่นที่ใช่สำหรับครอบครัว

เดสติเนชั่นเดียวที่จะมอบความตื่นตาตื่นใจ จุดพลังแห่งแรงบันดาลใจ และนำเสนอความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ OneSiam

1. ท่องโลกใต้ทะเลใจกลางสยาม ความมหัศจรรย์แห่งเดียวที่เที่ยวได้ทุกวัน

เมื่อก้าวเข้ามาที่ Sea Life Bangkok Ocean World ชั้น B1 สยามพารากอน อะควาเรียมระดับโลกรอที่จะสร้างประสบการณ์สุดตื่นตาตื่นใจ ผ่านความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตกว่า 8,000 ตัวที่อาศัยอยู่ในโลกใต้ทะเลลึก โดยแบ่งเป็นโซนๆ เช่น Rocky Hideout ตามหาปูแมงมุมยักษ์และปลาหมึกยักษ์ให้เจอ Shark Walk ท้าต่อมความกล้าเดินชมฉลามโดยมีแค่แผ่นอะคริลิกใสกั้นกลางระหว่างเท้าเราและเจ้าฉลาม 5 สายพันธุ์ที่ว่ายอยู่ด้านล่าง Ocean Tunnel อุโมงค์ใต้ทะเลสุดอลังการที่อวดวิวแบบรอบทิศทาง เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของทะเล Penguin Ice Adventure เพลินไปกับความน่ารักของเพนกวินเจนตู ในบรรยากาศเหมือนยกขั้วโลกใต้มาเลย ยังมีประสบการณ์ความสนุก ตื่นเต้นผจญภัยอีกมากมายให้ทุกคนในครอบครัวได้เข้าไปสัมผัส แล้วหอบเอาความสุขสุดมหัศจรรย์กลับบ้านไปคุยกันได้อีกหลายวัน

2. เกมสุดมัน สั่นสะเทือนหัวใจไปกับโลกเสมือนจริงเหนือจินตนาการ

นั่งยานอวกาศแล้วออกไปเที่ยวนอกโลก สวมบทฮีโร่ในดวงใจแล้วไปกอบกู้โลก หรือแท็กทีมทำภารกิจพิชิตซอมบี้ผีดิบ...ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จริงที่ AIS IMAX VR ชั้น 5 Paragon Cineplex สยามพารากอน แหล่งรวมประสบการณ์ความสนุกเสมือนจริงแบบ Virtual Reality (VR)  สมบูรณ์แบบด้วยภาพและเสียงรอบทิศทาง 360 องศาแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมอุปกรณ์สุดล้ำสมัย เทคโนโลยีระดับพรีเมียมที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ มีลิสต์เกมฮิตมากมายพร้อมไต่ระดับเลเวลความสนุกแบบชิลๆ ตื่นเต้น ระทึก ผจญภัย จนถึงทำให้หัวใจแทบหยุดเต้นไปเลย ครอบครัวสายแอดเวนเจอร์สุดล้ำต้องลอง (มีข้อจำกัดอายุขั้นต่ำ สอบถามก่อนการใช้บริการนี้) พอเล่นเสร็จอาจมีงงว่าโลกที่เพิ่งกลับออกมาใช่ของจริงหรือเปล่า!!

3. อร่อยได้สุด หยุดที่โมเม้นต์ความสุขของทุกคนในครอบครัว

นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว บรรยากาศและคนร่วมโต๊ะก็สำคัญ OneSiam รวมประสบการณ์ความอร่อยระดับโลกไว้ใจกลางเมือง กว่า 200 ร้าน หลากหลายสัญชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาเลียน ตะวันตก ไทยต้นตำรับ และแนววีแกน รวมทั้งเทรนดี้คาเฟ่และร้านขนมหวานระดับโลกยอดนิยมแห่งยุค ให้ทุกคนในครอบครัวได้เลือกแบบจุใจ มีร้านที่บรรยากาศเหมาะสำหรับครอบครัว มีเมนูที่กินแชร์กันแล้วยิ่งอร่อย อย่างเช่น Charna (ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์) ร้านฌานาที่อินสไปร์ความหมายมาจากชานบ้านที่คอยต้อนรับแขกที่มาเยือน เสิร์ฟเมนูอาหารประเภท Farm Pot (ต้ม) Farm Grill (ย่าง) และอาหารสไตล์ Thai Comfort โดยใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัยจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ สำหรับครอบครัวที่ชอบกินของอร่อย รสชาติถึงเครื่อง และได้สุขภาพในตัว



QQ Dessert (ชั้น G สยามพารากอน) ร้านขนมหวานสไตล์ไต้หวัน รสชาติไม่หวานมาก กินเข้ากับท็อปปิ้งที่ดีต่อสุขภาพมีให้เลือกมากมาย โดยนำเข้าวัตถุดิบบางส่วนจากไต้หวัน และทำสดที่นี่  มีเฉาก๊วยเป็นเมนูหลัก เนื้อนุ่มละลายในปาก รวมทั้งน้ำเต้าหู้ เต้าฮวย และท็อปปิ้งเป็นธัญพืช เช่น ถั่วแดง เผือก บาร์เลย์ ถั่วเขียว เม็ดบัว โดยตัวขนมหวานจะทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ของคนหลายรุ่นในครอบครัวได้

4. มิติใหม่ของการดูหนัง อลังการงานล้ำ ครบทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส

ชั้น 5 และ 6 ของสยามพารากอนคือที่ตั้งของ Paragon Cineplex รวม 16 โรงภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ระดับโลก หรูหราตระการตา พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค มอบความสะดวกสุดๆ ด้วยจุดจำหน่ายตั๋ว 3 จุด และ E-Ticket ไม่ต้องรอแถวนาน มีมุม Gourmet Popcorn ให้เลือก 3 รส เค็ม หวาน และชีส พร้อมรสพิเศษตามเทศกาล รวมถึงสแน็กและเครื่องดื่ม กินเพลินระหว่างดูหนังได้ ส่วนครอบครัวไหนที่อยากเพิ่มความพิเศษให้กับประสบการณ์การดูหนัง มีโรงภาพยนตร์ใหม่สุดพรีเมียม Honda Ultimate Screen เทคโนโลยีระบบภาพและเสียงสุดล้ำ พร้อมห้องรับรองสุดวีไอพี หรือ Krungsri IMAX ที่มีจอ Silver Screen สูงเท่าตึก 8 ชั้น และ True 4DX โรงภาพยนตร์สี่มิติที่แรกในเมืองไทย ให้ความรู้สึกสมจริงเหมือนเข้าไปอยู่ในหนังเลย กับเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหวของเก้าอี้ การสั่นสะเทือน ลม กลิ่น และแสง  รวมทั้งโรงภาพยนตร์ระบบมาตรฐานอีกจำนวน 9 โรง

5. หาก Content is King ร้านหนังสือต้องเป็น Queen

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำให้การอ่านมีความสะดวก รวดเร็ว ที่ไหนและเมื่อไรก็ได้ แต่หนังสือแบบรูปเล่มก็ยังมีเสน่ห์ในตัวเสมอ Kinokuniya ร้านหนังสือเชนญี่ปุ่นที่โด่งดังด้วยขนาดของร้านที่กว้างใหญ่และมีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ ชั้น 3 สยามพารากอน ขอเรียกว่า ‘อาณาจักร’ แห่งคลังข้อมูล ความรู้ ความบันเทิง จินตนาการ และแรงบันดาลใจในรูปแบบหนังสือ ครบทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ครอบคลุมหลากหลายประเภทความสนใจ ตั้งแต่วิชาการ วรรณกรรม ธุรกิจ ศิลปะ ไลฟ์สไตล์ อาหาร แฟชั่น ความงาม ศาสนา จนถึงการ์ตูน และอีกมากมาย มั่นใจว่าต้องมีเล่มที่ถูกใจทุกคนในครอบครัว

6. ประสบการณ์ช้อปสุดล้ำ  

OneSiam เตรียมประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ไฮบริดรีเทลสโตร์แห่งแรกที่เป็นมากกว่าศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า แต่เป็น “ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม” สนามประลองพลังความคิดสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้นักช้อปทุกคนได้ทดลอง สร้างสรรค์ และบ่มเพาะสไตล์ของตัวเอง จุดเด่นที่แตกต่างคือ การจัดวางสินค้าด้านไลฟ์สไตล์กว่า 10,000 แบรนด์ โดยคำนึงถึงประเภทความสนใจของนักช้อป แทนที่จะแยกเป็นแผนกแบบเดิมๆ เพื่อให้เข้าถึงหัวใจของนักช้อปมากที่สุด - - เช่น Street Lab ชั้น 1 รวมทุกไอเท็มที่อยู่ในความสนใจของสาวกสตรีทแบรนด์ ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า จนถึงแอ็กเซสซอรี่ หรือ Creative Lab ชั้น 3 โซนที่ความคิดสร้างสรรค์ถูกถ่ายทอดไปเป็นหลากหลายไลน์ผลิตภัณฑ์ ทั้งอุปกรณ์ทำครัว ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และงานศิลปะ - - เรียกว่า มาจุดเดียว อาจได้ของถูกใจครบทั้งสมาชิกในครอบครัว ยังมีร้านค้าที่เหมาะสำหรับครอบครัวสุดๆ อย่าง Loft และ Muji ชั้น 2 ที่สมาชิกแต่ละคนสามารถแยกตัวไปเดินเลือกช้อปของตามความชอบได้สบายๆ



พิเศษ!! อยากช้อปพร้อมรับสิทธิพิเศษแบบล้ำๆ ใช่ไหม สมัครสมาชิกบัตร VIZ Card หรือบัตรเครดิต OneSiam KBank เพื่อสนุกกับประสบการณ์ช้อปปิ้งเหนือระดับที่ OneSiam ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ รายละเอียดเพิ่มเติม VIZ Card และ OneSiam KBank Credit Card

7. อยู่กลางห้าง ก็เรียนหนังสือได้

อยู่ที่ไหนก็สามารถเพิ่มพูนทักษะและความรู้ได้ แม้กระทั่งศูนย์การค้าใจกลางเมือง เรากำลังพูดถึง Education Zone ชั้น 4 และ 4A สยามพารากอน ที่เป็นศูนย์รวมสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยและระดับโลกกว่า 20 แห่ง ให้เด็กๆ หรือผู้ใหญ่มาเรียนเสริมความรู้ เพิ่มทักษะที่ต้องการ ครบทั้งภาษา ศิลปะ ดนตรี การเต้น กีฬา และคอมพิวเตอร์ ในบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว สนุกและผ่อนคลาย ทำความรู้จัก Edutainment Zone เพิ่มเติม คลิก

8. เด็กในวันนี้ ก็คือผู้ใหญ่ในวันนี้

เหมือนขึ้นไทม์แมชชีนพาเด็กๆ เดินทางสู่วัยผู้ใหญ่ - - ที่มีผู้ใหญ่อย่างเราคอยแอบมองด้วยความเอ็นดูได้ - - เพราะที่ KidZania Bangkok ชั้น 5 สยามพารากอน เป็นเมืองจำลองขนาดย่อส่วน ที่เด็กๆ จะได้ลองสวมบทบาทเป็นผู้ใหญ่ ใช้ชีวิตและทำงานในฝันที่มีให้เลือกมากถึง 80 อาชีพ ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ตรงกับอาชีพที่เลือก ทำงานแล้วได้เงินเดือนไว้ใช้จ่ายในเมืองด้วย ที่สำคัญเด็กๆ ยังได้ฝึกทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น รู้จักตัดสินใจด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเอง ทำงานเป็นทีม อยู่ร่วมกันในสังคม และบริหารการเงิน ส่วนผู้ปกครองสามารถนั่งรอในห้องรับรอง หรือเดินถ่ายภาพเด็กๆ ขณะทำกิจกรรมได้…เชื่อว่า KidZania Bangkok จะเป็นโลกใบใหญ่ที่ให้เด็กได้เข้าไปสนุกกับการทดลอง เรียนรู้ และมีประสบการณ์การใช้ชีวิต เพื่อที่จะกลับออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยมุมมองใหม่และอาจมีแรงบันดาลใจสำหรับอนาคตของตัวเอง อ่านข้อมูลและโปรโมชั่นพิเศษ คลิก

9. เพราะมีโลก จึงมีเรา เราจึงควรเอาใจโลก มาใส่หัวใจเรา

ครอบครัวสายอีโค่ หรืออยากมีส่วนในการมอบความรัก (ษ์) ให้กับโลกใบนี้ ด้วยการมีไลฟ์สไตล์แบบยั่งยืน Ecotopia คือเมืองที่ควรแวะมา ที่นี่ทุกคนสามารถเอ็นจอยไลฟ์สไตล์แบบรักษ์โลกอย่างมีสไตล์ เป็นเดสติเนชั่นของสินค้าแนว eco-friendly แห่งแรกในเอเชียที่รวมทุกอย่างของไลฟ์สไตล์มากที่สุดครั้งแรกในเมืองไทยกว่า 100 แบรนด์ กับสินค้ามากกว่า 1,000 ชิ้น ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ ครอบคลุมทั้งแฟชั่น ความงาม อาหารการกิน แกดเจ็ต เครื่องเขียน ของแต่งบ้านและสวน ที่ผลิตและออกแบบมาในสไตล์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าทุกชิ้นต้องผ่านการคัดสรรและเกณฑ์เพื่อเข้ามาวางขายที่นี่ เช่นสกินแคร์ก็ต้องเป็นแบบออร์แกนิก ไม่ทดลองในสัตว์ ไม่เอาเปรียบชุมชน เรียกว่าเป็น Asia’s First Full Lifestyle Destination เลย ลองแวะมาแล้วจะค้นพบมิติใหม่ล้ำของไลฟ์สไตล์แบบยั่งยืน - - ว่า Sustainable is sexy และ Green is the new black! ที่สำคัญ คุณสามารถปลูกฝังและช่วยบ่มเพาะนิสัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ ได้

10. ห้องหุ่น ที่สนุกได้สุด เปิดรับแรงบันดาลใจได้สุดเช่นกัน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มาเที่ยวได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลูกและหลาน มาเจอคนดังระดับโลกและของไทยแบบใกล้ๆ ที่ Madame Tussauds พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งจากลอนดอนที่มีอายุเกือบ 200 ปี มาเปิดสาขาแรกและสาขาเดียวที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 4  รวมเซเลบริตี้ระดับโลกจากหลากหลายวงการ ทั้งบันเทิง กีฬา ศิลปะ การเมือง และบุคคลผู้ทรงอิทธิพล ให้เราได้ถ่ายรูป เซลฟี่ หรือใช้เวลาดื่มด่ำกับคนดังที่เป็นคนโปรดในดวงใจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากความสนุกและความทึ่งไปกับความเหมือนจริงของหุ่น (ที่ต้องใช้เวลาปั้น 6 เดือน) ยังเป็นโมเม้นต์ที่ผู้ใหญ่ที่มีความรู้และประสบการณ์มากกว่า สามารถสอนผ่านเรื่องราวของหุ่นที่เด็กๆ สนใจได้แบบเนียนๆ - - เป็นช่วงขายของที่มีชื่อว่า ‘ความฝัน’ และ ‘แรงบันดาลใจ’ ให้พวกเขาได้ - - เช่น หุ่นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับวีรกรรมความกล้าหาญในการกู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงครั้งแรก หรือหุ่นทาทา ยัง นักร้องสาวระดับตำนานของไทย กับการเดินทางตามความฝันผ่านการประกวดร้องเพลง หรือหุ่นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ทรงอิทธิพลแห่งยุคที่เชื่อมทุกมุมโลกเข้าไว้ด้วยกัน กับความเก่งกาจในการเขียนโปรแกรมที่ฉายแววมาตั้งแต่เรียนประถมปลาย จนประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกที่ไม่ลืมแบ่งปันโอกาสให้กับการพัฒนาศักยภาพของเพื่อนมนุษย์และสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น






ประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับทุกครอบครัว เริ่มต้นได้ทุกวันที่ OneSiam