BACK TO EXPLORE

Pot Ministry หม้อไฟรสเด็ดที่พาเราเดินทางไปทั่วไทยในทุกคำ

น้ำซุปหม้อไฟ 4 ภาคกับวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาเจอกัน นี่คือความพรีเมียมที่แท้จริง!

หลังจากประสบความสำเร็จไปกับร้าน Chilli Thai Restaurant อาหารไทย-อีสานรสเด็ดที่ตั้งอยู่บนชั้น G ฝั่ง North สยามพารากอน คุณตู๋ – เลิศรินิญฒ์ สิปปภาค ผู้ก่อตั้งร้านก็ได้คิดค้นอาหารต้มๆ สไตล์ชาบูออกมาได้ครีเอทีฟไม่เหมือนใคร กลายเป็นร้าน Pot Ministry บนชั้น 4 สยามพารากอน ที่ใครได้ชิมแล้วจะต้องจดจำหม้อไฟ 4 ภาคกับเมนูที่นำสูตรมาจากอาหารดั้งเดิมของจังหวัดต่างๆ



พี่ตู๋พูดถึงที่มาของร้านว่า “เราเห็นคนฮิตชาบูสไตล์ญี่ปุ่น คิดว่าควรมีชาบูสัญชาติไทยเกิดขึ้นบ้าง ทำให้เป็นที่มาของหม้อไฟ 4 ภาค ซึ่งน้ำซุปของ Pot Ministry พี่จะคิดเองทั้งหมด ซุปเหนือเหมือนต้มแหนมหมูยอ เหมือนกินแกงแคผสมกับอ่อมของชาวเหนือ ซดน้ำรสชาติเบาๆ แบบต้มจิ๋วของรัชกาลที่ 5 ภาคอีสานเป็นแจ่วฮ้อน เบสิคหน่อย คนค่อนข้างรู้จัก ภาคกลางก็เกาเหลาหม้อไฟเนื้อตุ๋นหมูตุ๋น ภาคใต้เป็นประมาณแกงเหลือง ใส่ต้มขมิ้นเล็กๆ”


ทุกเมนูมาจากการพูดคุยกับชาวบ้านและเดินตลาดท้องถิ่น

“พี่เป็นคนชอบเดินทางอยู่แล้วทุกครั้งที่เดินทาง สิ่งหนึ่งที่ชอบคือการเดินตลาด ทั้งตลาดเช้าตลาดเย็น และแพลนการเดินทางทุกครั้งคือฝึกทำอาหาร อย่างล่าสุดไปอยู่ฝรั่งเศสมาเดือนหนึ่ง ไปเดินตลาด เข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนบ่ายไปสมัครเรียนตามโรงแรมที่มีเชฟมาสอน เพราะไม่มีเวลาเรียนเป็นคอร์สยาวๆ ก็เรียน 3-10 วันให้ได้รู้ถึงอาหารประเทศนั้นๆ แล้วเอามาทำเป็นเมนูต่างๆ”




“เราเริ่มตั้งแต่ลงมือทำอาหารกับเชฟ คิดทุกอย่าง หาวัตถุดิบ เป็นคนที่ตัดสินใจว่าอันนี้ให้ขายไม่ให้ขาย รวมทั้งแบบร้าน ไปจนกราฟิก” เราถามถึงแรงบันดาลใจของพี่ตู๋ เธอเล่าว่าแรงบันดาลใจจะไม่มาก่อนการลงมือทำ “อย่างเมื่อวานนี้มีความคิดอยากทำเม็กซิกันอีสาน อยากได้นาโช่ลาบ เจอลาบแบบนี้ก็โอเคนะ แต่ถ้ากินนาโช่กินกับซุปมะเขือแล้วค่อยใส่เนื้อสัตว์ลงไปก็จะเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งของเขา แรงบันดาลใจเกิดจากการเดินทาง ทุกที่ที่เห็นวัตถุดิบ มันหล่อหลอมรวมกัน ทุกที่ที่ไปพี่จะมีสมุด มือถือถ่ายรูปไว้ เวลาคิดไม่ออกก็เปิดดูหาไอเดียใหม่ๆ”


ที่มาของ Pot Ministry

“ชื่อ Pot Ministry ตอนแรกก็หาอยู่นานว่าหม้อไฟอะไรดี เรามีโจทย์ว่าอยากได้พรีเมียม แล้วหม้อไฟชื่อไทยๆ คนจะกินมั้ย พาร์ทเนอร์ก็คิดว่า pot อะไรดี เลยคิดว่าเป็นองค์กรอุตสาหกรรมไปเลย เป็นเหมือนภาครัฐที่ยิ่งใหญ่ เพราะทุกอย่างที่เราใช้ในทุกเมนู ข้าวอบก็เสิร์ฟเป็นพอต มีอาหารจานเดียวด้วย และบนชั้น 4 ของสยามพารากอน เราต้องครีเอทแบบไม่เหมือนใคร หม้อไฟ วัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเนื้อ เราใช้ชั้นดีจากออสเตรเลีย หมูคุโรบูตะ น้ำซุปไทยๆ มีหลายเมนูที่หาทานยาก ที่ดังๆ อย่างอื่นก็มีหมี่พันของอุตรดิตถ์ ส้มตำด๊องแด๊งจากจังหวัดเลย เส้นขนมจีนสดเป็นสูตรที่เลย แม่ครัวบีบทุกเช้า เราต้องการความเหนียวนุ่มแบบนี้”

และเมนูที่มาแล้วห้ามพลาดเด็ดขาดของ Pot Ministry ที่ต้องสั่งด่วนคือ...

1. ข้าวซอยไก่ 190 บาท

ข้าวซอยรสเข้มข้นตามสไตล์ของชาวเหนือ เนื้อไก่นุ่มมากินคู่กับเส้นและน้ำข้าวซอยที่เข้ากันอย่างกลมกล่อม คนเหนือที่มาอยู่กรุงเทพได้กินแล้วคงหายคิดถึงบ้านไปได้เยอะ



2. ข้าวอบล็อบสเตอร์คั่วพริกเกลือ 2,500 บาท

จานนี้ขอแนะนำมากๆๆๆๆ เพราะว่าเนื้อล็อบสเตอร์เด้งมากอบมากับข้าวที่โรยพริกเกลือสูตรเด็ดของทางร้าน ยิ่งกินยิ่งหยุดไม่ได้ ที่สำคัญจานใหญ่มากแบบกินได้ 3-4 คนอิ่ม



3. ส้มตำด๊องแด๊ง 150 บาท

ส้มตำเอกลักษณ์จากจังหวัดเลย ที่มีเส้นขนมจีนบีบคล้ายๆ ลอดช่อง ทำให้เคี้ยวแล้วมีเท็กซ์เจอร์นุ่มหนึบ อยากได้เผ็ดมากเผ็ดน้อยก็บอกทางร้านไปได้เลย



4. ข้าวอบคลุกกะปิ 150 บาท

อาหารจานเดียวที่รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัวตอนคลุกเคล้าเข้าหากัน กะปิเคลือบเม็ดข้าวหอมกรุ่น รสชาติหวาน เค็ม บีบมะนาวแล้วเปรี้ยวนิดๆ คือใช่เลย!



5. หม้อไฟ 4 ภาค

ที่เริ่มจากซุปภาคเหนือหรือต้มแหนมหมูยอที่หอมสมุนไพร มันฝรั่งและมันเทศตามต้นตำรับสมัยรัชกาลที่ 5 เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มใบกะเพราสูตรเฉพาะและน้ำจิ้มถั่วกระเทียมดองให้รู้สึกถึงคนเมืองแต้ๆ ซุปอีสานหรือแจ่วฮ้อน แซ่บกลมกล่อมสุดซี้ดที่มาคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มสามรส ซุปภาคกลางหรือเกาเหลาหม้อไฟ เหมือนกำลังกินก๋วยเตี๋ยวเรือเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ และ ซุปภาคใต้หรือต้มส้มแกงเหลือง ชิมคำแรกแล้วต้องรีบบอกว่าอร่อย เพราะรับรู้ถึงเครื่องเทศแท้ๆ ของภาคใต้ เพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มพริกขมิ้นและน้ำจิ้มขิงเต้าเจี้ยว โดยสามารถสั่งเนื้อเซ็ตต้มแหนมหมูยอ (750 บาท) เซ็ตหมูคุโรบุตะ (950 บาท) เซ็ตเนื้อออสเตรเลีย (950 บาท) เซ็ตทะเลพรีเมียม (2,500 บาท)






6. หมี่พัน

เมนูที่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ที่เห็นตอนแรกแล้วอาจจะคิดว่าหมี่กับแป้งพันจะเด็ดตรงไหน พอกินไปเท่านั้น เข้าใจเลยว่ากินเพลินเกินห้ามใจ นั่งเมาท์ไปกินไป เพราะหมี่ผัดมาได้รสชาติเผ็ดแซ่บถึงรสกับแป้งนุ่มๆ ที่พันด้านนอกให้ถือได้สะดวกมากมาย



7. น้ำผลไม้รวม 150 บาท

เครื่องดื่มที่แกล้มอาหารและหม้อไฟที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเปรี้ยวหวาน สีสันสดชื่นกับการตกแต่งที่เห็นแล้วชื่นใจทันที



8. ไอศกรีมกะทิสด

ความหอมของไอศกรีมกะทิสดทำให้ปิดท้ายมื้อนี้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมยังมีเครื่องเคียงฟรุ้งฟริ้งที่ให้เราปรับแต่งใส่มากน้อย เป็นกิมมิคที่สนุกมาก