BACK TO EXPLORE

ภาพรวมคอลเลคชั่นใหม่ งาน World Fashion Trend SS2024 ช้อปไอเท็มใหม่ที่สยามพารากอน World Class Shopping Destination

สรุปภาพรวมคอลเล็กชั่นใหม่ของลักซ์ชูรี่แบรนด์ระดับโลก จากคอลเลคชั่นใหม่ๆ และโททัลลุคที่นำเสนอในงาน World Fashion Trend Spring/Summer 2024 อีเว้นท์แฟชั่นสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ณ สยามพารากอน

ปรากฏการณ์แฟชั่นครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “World Fashion Trend Spring/Summer 2024” สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น World Class Luxury Destination ระดับโลก ผนึกกำลัง สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมด้วย ธนาคารกสิกรไทย สร้างสุดยอดปรากฏการณ์แฟชั่นครั้งใหญ่แห่งปี ยกทัพลักซ์ชัวรี่แบรนด์ระดับไฮเอนด์มาให้สายแฟ (ชั่น) ได้รับชมกันอย่างใกล้ชิด อาทิ Balenciaga, Boss, Burberry, Casablanca, Celine, Coach,  Dolce & Gabbana, Fendi, Givenchy, Loewe, Longchamp, Louis Vuitton, MAX MARA, MCM, Miu Miu, Off-White, Prada, Roger Vivier, Saint Laurent, Tory Burch, Valentino และอีกมากมาย

ครั้งนี้สยามพารากอนไม่พลาดที่จะสรุปภาพรวมคอลเล็กชั่นใหม่จาก World Fashion Trend Spring/Summer 2024 ให้ทุกคนได้มาช้อปปิ้ง และสนุกกับการแต่งตัวได้ตลอดทั้งปี


Balenciaga (ชั้น M)

รูปทรงโอเวอร์ไซส์กลายเป็นภาพจำของ Balenciaga ไปแล้ว แต่คอลเลคชั่นนี้ยังคงมี Element แบบดั้งเดิม เช่นปกเสื้อ ปลายแขน และกระเป๋าด้านหน้า เพิ่มเติมด้วยการฟอกสีให้เฟดและสติกเกอร์ตกแต่ง ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ลุคยีนส์แตกต่างจากเดิม



Boss (ชั้น 1)

ด้วยแรงบันดาลใจจาก Workwear ที่นำเสนอชุดสูทและแจ๊คเก็ตสไตล์ลำลอง มาพร้อมกางเกงทรงตรง เบลเซอร์ เชิ้ตเดรส และเดรสสายเดี่ยวที่สามารถใส่ไปงานกลางคืนต่อได้  เน้นการใช้โทนสีเรียบๆ ที่มั่นใจได้ว่าจะหยิบมาใส่ได้บ่อยครั้ง



Burberry (ชั้น M)

เพราะความเรียบง่ายแบบอังกฤษกลายเป็นรากฐานของแบรนด์ คอลเลคชั่นนี้จึงเน้นการออกแบบที่ใส่ได้จริง ทั้งซิลลูเอท ลวดลาย และสีสัน แน่นอนว่าซิกเนเจอร์ลุคอย่างเทรนช์โค้ทวนกลับมาอีกครั้งในแพทเทิร์นที่ถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น



Casablanca (ชั้น 1)

มาในลุคที่เล่นสนุกกับสีสันและลายปริ้นท์แสนมีชีวิตชีวา เลือกใช้โทนสีที่บ่งบอกถึงความเป็นหน้าร้อนได้อย่างเต็มที่ และยังเพิ่มความคิ้วท์ด้วย Total look ผ้านิตติ้ง รวมถึงกระเป๋าถักใบกำลังพอดี ที่พร้อมให้ทุกคนสะพายไปเฉิดฉายรับหน้าร้อน



Celine (ชั้น M)

เป็นการออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายที่เล่นกับดีเทลตกแต่งเล็กน้อยๆ ที่มีความเฟมินีนอยู่ในนั้น แน่นอนว่างานเทลเลอริ่ง (Tailoring) ยังคงความเฉียบคมเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยเทคเจอร์ผ้าแวววาว เหมาะกับการสวมใส่ออกงานกลางคืน



Coach (ชั้น 1)

เรื่องราวของคอลเลคชั่นนี้สะท้อนถึงการเดินทางที่ยาวนาน และแรงบันดาลใจจากซิลลูเอทยุค 90 ของชาวนิวยอร์กที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ แต่คูล ออกมาเป็นสูทครอปเข้าเซทกับกระโปรงสั้นสีพาสเทล และแจ็กเก็ตผ้ายีนส์ฟอกที่ทำเอฟเฟกต์ให้เหมือนเสื้อผ้าวินเทจเพิ่มความคลาสสิก




Dolce & Gabbana (ชั้น M)

เพราะความมีเสน่ห์ชวนหลงใหลคือ DNA ของ Dolce & Gabbana ที่ครั้งนี้กลับสู่สามัญด้วยสีและดีไซน์ที่ดูเรียบกว่าคอลเลคชั่นก่อนๆ เน้นไปที่ซิลลูเอทเพรียวบาง และหยอดความเป็นเฟมินีนลงไปในชิ้นงาน เช่น การปักดีเทลดอกไม้ 3D ลงบนเสื้อเชิ้ตส่งเสริมให้ดูน่าสนใจมากขึ้น



Fendi (ชั้น M)

เปลี่ยนภาพลักษณ์ของชุดทำงานแสนน่าเบื่อให้ดูดีมีสไตล์แบบสายแฟ และคอลเลคชั่นนี้ยังได้แรงบันดาลใจมาจากเหล่า Factory boy ไม่ว่าจะเป็นช่างฝีมือหรือนักออกแบบ เกิดเป็นชุดทำงานที่ผสมผสานสไตล์ใหม่ๆ อย่างการเลเยอร์ไอเทมหนังบนกางเกงทำงานและลวดลายของเนคไทที่ครีเอทได้ไม่สิ้นสุด



Givenchy (ชั้น M at Luxe Hall)

หรูหราราวกับงานศิลปะชั้นเยี่ยม แถมยังดึงดูดสายตาด้วยเนื้อผ้าบางเบาเผยผิว และ Givenchy ได้เลือกลุคเดรสสีดำที่ใช้เทคนิคจับเดรปเล่นเลเยอร์ รวมถึงการตัดเย็บแบบอสมมาตร (Asymmetric) มานำเสนอสู่สายตาแฟชั่นนิสต้าชาวไทย



Loewe (ชั้น 1 *Temp. Store)

เมื่อแสงระยิบระยับกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเสื้อผ้าสุภาพบุรุษในคอลเลคชั่นล่าสุด ทำให้เราได้เห็นสีสันและแมททีเรียลใหม่ๆ ซึ่ง Loewe ภูมิใจนำเสนอ โดยเฉพาะเสื้อสเวตเตอร์สีคัลเลอร์บลอค ที่จะทำให้คุณโดดเด่นไม่แพ้ใคร



Longchamp (ชั้น 1)

มาในธีม Longchamp University โดยใช้เสน่ห์ของปารีสแบบดั้งเดิมมาผสานกับภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่กล้าแต่งตัวแบบไม่กลัวกฏเกณฑ์ใดๆ ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอายเฉพาะตัว เช่น การกล้าเล่นกับลายปรินท์สุดร้อนแรงแบบ Total look ไปเลย



Louis Vuitton (ชั้น M)

เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นอเมริกันตามสไตล์ของ ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ คนใหม่ “Pharrell Williams” ออกมาเป็นชิ้นงานลวดลาย Damoflage รวมถึงการเติมสีเข้าไปในลายตาราง Damier ที่เป็นเอกลักษณ์แบรนด์ให้กลายเป็นศิลปะบนเสื้อผ้าชิ้นใหม่



MAX MARA (ชั้น 1)

จากความแข็งแกร่งของหญิงสาว Women's Land Army ที่มีหน้าที่หลักในการทำงานเกษตรกรรม สู่เสื้อผ้าสไตล์สาวมั่นที่เต็มไปด้วยความคล่องตัวและความมั่นใจ เลือกใช้สีโทนคาราเมลเพื่อสื่อถึงผืนดินอันสมบูรณ์ตัดกับสี Earth Tone ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ



MCM (ชั้น M)

คอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่า Digital Nomad ที่มีการเดินทางเปลี่ยนสถานที่ตลอดเวลา คีย์หลักจึงเน้นไปที่ความสบายตัวเวลาสวมใส่ ออกมาเป็นเสื้อผ้าทรง Loose คล้ายชุดอยู่บ้าน แต่ยังใส่ออกไปด้านนอกได้แบบไม่อายใคร



Miu Miu (ชั้น M at Luxe Hall)

การผสมผสานไอเทมที่มีกลิ่นอายแบบวินเทจ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความหรูหราแบบยุคปัจจุบัน เกาะอกที่ถูกตัดเย็บอย่างปราณีตถูกจับคู่กับกางเกงเอวต่ำสุดเปรี้ยวที่เผยให้เห็นขอบกางเกงว่ายน้ำเล็กๆ  ก็กลายเป็นอีกหนึ่งลุคที่เชื่อว่าเหมาะกับเทรนด์และอากาศบ้านเราแบบสุดๆ



Off-White (ชั้น M)

แบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดัง ที่พาเราย้อนกลับไปยังต้นกำเนิด ผ่านธีม "Homecoming" ผ่านแรงบันดาลใจที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของคาวบอยตะวันตก และยุคฮิปฮอป ทำให้คอลเลคชั่นนี้บ่งบอกถึงความแตกต่างที่ลงตัวของธรรมชาติและแสงสีที่ฉูดฉาด



Prada (ชั้น M และ ชั้น 1)

แนวคิดเรื่องความลื่นไหลทางเพศปรากฏอย่างเด่นชัดในคอลเลคชั่นนี้ โดยเน้นไปที่เส้นสายโครงร่างที่ดูแข็งแรงและชัดเจน แต่ในส่วนของดีเทลเลือกใช้การเย็บตกแต่งด้วยดอกไม้สุดป๊อบ กลายเป็นลุค Unisex ที่ให้ความรู้สึกซอฟท์ละมุน แต่ก็ยังเท่มาก



Roger Vivier (ชั้น M)

เน้นรูปทรงที่เข้าใจง่ายคล้ายกราฟฟิกทรงเลขาคณิต กระเป๋าของคอลเลคชั่นนี้จึงเล่นกับรูปทรงสี่เหลี่ยมทั้งทรงของกระเป๋ารวมถึงฮาร์ดแวร์ด้านหน้า และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการประดับตกแต่งเลื่อมทั้งใบ



Saint Laurent (ชั้น M)

เพราะการแต่งตัวไม่ได้เกี่ยวกับเพศ Saint Laurent มาเพื่อสลายเส้นแบ่งระหว่างชายและหญิงให้หายไป โดยนำหลายๆ ลุคจากคอลเลคชั่นผู้หญิงมาสวมใส่บนตัวนายแบบในสไตลิ่งที่เหมือนกันเป๊ะ โดยบางไอเทมยังคงใส่ลายเซนต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ไว้ เช่นเบลเซอร์ไหล่ยก และกางเกงขากระบอกผ้าวูลสุดเนี้ยบ



Tory Burch (ชั้น M at Luxe Hall)

ถึงจะเป็นเวลาพักผ่อนก็ยังต้องเก๋ไม่หยุด คอลเลคชั่นนี้ของ Tory Burch เลือกใช้ภาพถ่ายของสัตว์จากช่างภาพเยอรมันที่ดูสมจริงมาชูโรง สร้างความตื่นตาตื่นใจ สวยเก๋จนอยากพุ่งตัวไปช้อปเดี๋ยวนี้



Valentino (ชั้น M at Luxe Hall)

เพราะการแต่งตัวคืออิสระ! และผู้หญิงเราเลือกที่จะแต่งตัวเซ็กซี่ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวเองทั้งนั้น ทำให้คอลเลคชั่นนี้เลือกใช้เทคนิคเลเซอร์คัทสุดวิจิตรที่สวยงามราวกับรูปปั้นผสมลงไปในเสื้อผ้าเพื่อเปิดเผยผิวและรูปร่างเท่าที่ใจต้องการ



สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์ เป็นเจ้าของคอลเลคชั่นใหม่ที่คุณชื่นชอบได้ที่ ชั้น M และ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน World Class Luxury Destinationa