BACK TO EXPLORE

คลุกวงในไปกับ Beauty Backstage ช่วง Pre-Runway Look ของ BIFW 2019

ก่อนเปิดรันเวย์สุดตระการตา หลังเวทีมีทีมงานทุ่มสุดหัวใจ

Before the Stunning Show Comes…
Behind the Hard-Working Scene!

ก่อนเปิดฉากสุดตระการตาของรันเวย์แฟชั่นวี้กระดับโลกใจกลางสยาม กับงาน Bangkok International Fashion Week 2019 (BIFW 2019) ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคมนี้ ที่ยกระดับลาน Parc Paragon ให้เป็น Grand Runway อัพเดตคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019 จาก 10 แฟชั่นโชว์แบรนด์ดังระดับอินเตอร์ และ 14 แบรนด์ชั้นนำของไทย OneSiam ขอพาไปชมเบื้องหลังของ pre-runway look ซ้อมแต่งหน้านายแบบและนางแบบสำหรับขึ้นโชว์ในวันจริง ที่ได้รับการสนับสนุนจาก M.A.C แบรนด์เมกอัพชื่อดังระดับโลกที่เป็นแฟชั่นเทรนด์เซ็ตเตอร์ มีประสบการณ์แน่นในการทำงานแบ็กสเตจแต่งหน้าให้กับอินเตอร์แบรนด์มากมายในงานแฟชั่นวี้กระดับโลกที่ปารีส มิลาน ลอนดอน และนิวยอร์ก เป็นเครื่องสำอางที่บรรดาช่างแต่งหน้ามือโปรให้ความไว้วางใจ และยังเป็นแบรนด์ความงามที่เปิดรับความหลากหลาย ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงถูกอกถูกใจคนทุกเพศวัยและเชื้อชาติ

เราได้พบกับ 2 National Artist ของ M.A.C ประเทศไทย - - สานิด อินทะอาสา หรือพี่กล้า และ วิสุทธิ์ เสือหนู หรือพี่ต้อ - - เมกอัพอาร์ทิสต์ที่เป็นกำลังหลัก (ร่วมกับลูกทีมอีกราว 25 คน) ในการครีเอตเมกอัพลุคให้กับนายแบบและนางแบบที่จะมาเดินในงาน BIFW 2019 และนี่คือตัวอย่างเมกอัพลุคสำหรับ 2 โชว์จากฝีมือและฝีแปรงของพี่กล้าและพี่ต้อ


Fri27Nov. แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ที่อินสไปร์ให้เรา “แต่งตัวให้คิดตาม ไม่ใช่แต่งตามที่คนอื่นคิด”

ลุคแรกที่เราได้ดูเป็นการแต่งหน้าสำหรับโชว์ของ Fri27Nov. ที่จะเดินในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมนี้ เวลา 2 ทุ่มครึ่งที่เวทีลานพาร์ค พารากอน โดยดีไซเนอร์ของห้องเสื้อ สิทธิ์-ชนะชัย จรียะธนา มาดูการทดลองแต่งหน้านายแบบด้วยตัวเองเลย Fri27Nov. เป็นแบรนด์สตรีทแวร์ที่เน้นงานแฮนด์คราฟท์สุดประณีต และคอลเล็กชั่นล่าสุดนี้มาในคอนเซ็ปต์ World of Friday ผสมผสานแมตทีเรียลและสีสัน โดยไม่มีสีหรือธีมหลัก เน้นความครีเอทีฟและงานคราฟต์ ไม่ตามกฎและทลายข้อจำกัดของแฟชั่น ทำให้ไอเท็มของ Spring/Summer 2019 มีความไม่เหมือนใคร ใส่ได้ทุกวัน สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้กับไอเท็มเดิมที่มีอยู่ ชายหนุ่มที่อยากแต่งตัวให้มีสไตล์แบบไม่พลาด และไม่ต้องวิ่งตามเทรนด์ วางใจแฟชั่นจาก Fri27Nov. ได้เลย





M.A.C National Artist เลือกแต่งหน้านายแบบ 2 ลุคหลัก เป็นนายแบบ 2 สไตล์ ตี๋ และฝรั่ง โดยอินสไปร์เมกอัพลุคมาจากความชอบและใช่ของประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตัวดีไซเนอร์ เราจะได้เห็นการวาด tattoo บนผิวหน้านายแบบ ซึ่งทางเมกอัพอาร์ทิสต์บอกว่า “เป็นการเล่าเรื่องราว เป็นริ้วรอยแห่งประสบการณ์ของแบรนด์และดีไซเนอร์” รวมทั้งมีการสร้างเอ็ฟเฟ็กต์แบบกระ เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ (พี่ต้อบอกเราว่า ในโลกโซเชียลคนเริ่มหันมาแต่งหน้าแบบมีกระกันมากขึ้น) เมกอัพอาร์ทิสต์เตรียมผิวด้วย M.A.C Prep + Prime Natural Radiance ไพรเมอร์เนื้อเจลนุ่มมอบความชุ่มชื้น และช่วยลดเลือนจุดบกพร่อง เตรียมผิวให้เนียนสวยพร้อมสำหรับเมกอัพ และ M.A.C Prep + Prime Fix+ สเปรย์น้ำแร่ให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่น ชุ่มชื่น (สามารถใช้เพื่อเซ็ตเมกอัพให้ติดทนและไม่เป็นแป้งจนเกินไปหลังแต่งหน้าได้ด้วย) ใช้ M.A.C Pro Conceal and Correct Palette แต้มกระในสไตล์โมเดิร์น คำแนะนำจากมืออาชีพคือ ในชีวิตประจำวัน ลงแค่หน้าแก้มก็พอ จุดปุ่มกระให้เล็ก-ใหญ่สลับกันไป โดยใช้เป็นดินสอสีน้ำตาลหรือคอนซีเลอร์ก็ได้ ส่วนคิ้วใช้ Shape & Shade Brow Tint ปากกา 2 หัว ด้านหนึ่งเป็นเนื้อลิควิดสร้างเส้นคิ้ว อีกด้านเป็นเนื้อแป้งกึ่งแว็กซ์สำหรับเซ็ตคิ้วให้อยู่ทรง พร้อมคุณสมบัติติดทน กันเหงื่อและความชื้น - - แท่งนี้เป็น best seller สำหรับใครที่ต้องการคิ้วแบบตั้งๆ หรือยกขึ้น




ส่วนลายเส้น tattoo บนใบหน้านายแบบสื่อถึงเส้นริ้วแห่งประสบการณ์ในชีวิต โดยใช้ผลิตภัณฑ์ตระกูล M.A.C Pro ออกแบบมาสำหรับช่างแต่งหน้ามืออาชีพโดยเฉพาะ ได้แก่ Chromaline สีดำ เป็นไลเนอร์เนื้อเจล/ครีมสูตร waterproof ให้เส้นเฉียบคม สีสดชัด และ Chromacake สี Basic Red สำหรับการทำ body paint และ tattoo โดยผสมกับ Prep+Prime Fix+ จากนั้นก็บรรจงวาดลวดลายที่ต้องการได้เลย





Pichita ตำนานแฟชั่นไทย วิสัยทัศน์ระดับโลก  

โชว์เมกอัพ pre-runway ถัดมาเป็นของ Pichita แบรนด์เรียดี้ทูแวร์และกูตูร์ที่เชื่อมโยงดีไซเนอร์หญิงสาว 3 คนจาก 3 รุ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะเดินแบบโชว์คอลเล็กชั่นล่าสุดในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม เวลา 1 ทุ่มตรงที่ลานพาร์ค พารากอน กับคอนเซ็ปต์ The Golden Hour ที่เป็นการจับมือระหว่างแม่-ลูก พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ และธีมา รักษะจิตร เพื่อสานต่อตำนานของห้องเสื้ออันโด่งดังที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 โดยเจี๊ยบ-พิจิตรา ลูกสาวของช่างตัดเสื้อชั้นบรมครูผู้ล่วงลับ อย่างลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ ผู้ก่อตั้งห้องเสื้อระพี และโรงเรียนสอนตัดเสื้อระพี - - ท่านเป็นปรมาจารย์ตัดเย็บเสื้อผ้าชุดไทยในช่วงทศวรรษ 60-80 ผลงานโด่งดังระดับโลกคือ การออกแบบและตัดชุดให้กับนางสาวไทยใส่ประกวดบนเวทีนางงามจักรวาล





คอลเล็กชั่นล่าสุดของ Pichita ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์แบบ timeless เหนือกาลเวลาของผู้หญิงแบบ Pichita  ซึ่งต่อยอดมาจากแนวคิดเรื่องการเป็นอิสระและตื่นรู้ (enlightenment) ของ Eckhart Tolle อาจารย์และนักเขียนแนวจิตวิญญาณ โดย The Golden Hour แสดงถึงช่วงเวลาสุดอบอุ่นในหัวใจ - - นั่นคือปัจจุบันขณะ - - สิ่งที่เราจะได้เห็นในเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นที่เปี่ยมความหมายลึกซึ้งนี้ก็คือ สไตล์งานที่คงความเป็น Pichita อย่างงานโมเสก แพตช์เวิร์ก และดีเทลแบบคลาสสิก พร้อมเล่นกับแมตทีเรียล รูปทรง และลายพิมพ์ที่มีเรื่องเล่าในตัว รวมถึงงานคราฟต์




ส่วนของเมกอัพลุคดูสะดุดตาด้วยการใช้สีแดงและสีเหลือง-ทอง ที่อินสไปร์มาจากการกระจายแสงของดวงอาทิตย์ ไล่ตั้งแต่สีสดจนถึงจาง ภาพรวมของลุคนี้ เน้นผิวนางแบบให้มีความแมตต์ เหมาะกับสภาพอากาศ และใช้การแต่งหน้าแบบโมโนโครม ไล่เฉด มีผลิตภัณฑ์ชูโรงคือ M.A.C Studio Fix Fluid รองพื้นที่เป็นรุ่นขายดี ให้ผิวแมตต์แบบธรรมชาติ ติดทน 24 ชั่วโมง พวงแก้มปัดด้วย Mineralize Blush สี Hey, Coral, Hey…โทน bright pink coral บลัชเนื้อแป้งบางเบา มีชิมเมอร์ด้วย ส่วนสีปากแดงเหลือบเหลือง ทาสไตล์คาบูกิโมเดิร์น เมกอัพอาร์ทิสต์แนะว่าให้ใช้นิ้วมือแตะๆ ไม่ต้องบรรจงมาก ด้วย M.A.C Retro Matte Liquid Lip Colour สี Fashion Legacy แดงสด และสี Quite The Standout ส้มอมแดงแต่หลังจากลองลุคนี้กันแล้ว ทีมงานที่เกี่ยวข้องตกลงกันว่า วันโชว์จริงจะทาปากเป็นสีนู้ดแทน โดยใช้ Powder Kiss Lipstick ให้ผิวสัมผัสแบบแมตต์แต่ไม่แห้ง เลือกสี Impulsive โทน warm brown และสี Influentially It โทน nude beige ส่วนเปลือกตาทรงพลังด้วยสีแดงและเหลือง ใช้ Chromacake ผสมกับ Lipmix สี yellow เป็นเบส เพิ่มประกายทองด้วย M.A.C Glitter เพื่อสื่อถึงช่วงเวลาสุด Golden Hour