BACK TO EXPLORE

'แฮร์รอดส์ ที รูม' ความอร่อยแบบต้นตำรับอังกฤษใจกลางสยาม

สู่การรังสรรค์เมนูขนมไหว้พระจันทร์ใหม่ล้ำ

วัฒนธรรมอาหารถือเป็นสื่อกลางที่หลอมรวมความแตกต่างของแต่ละชนชาติให้ลงตัวได้อย่างกลมกลืน และหนึ่งในอาหารที่ทั่วโลกต่างพร้อมใจกันร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็คือขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศนั่นเอง





ใกล้ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ทีไร ร้านอาหารต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกจะพากันนำเสนอความอร่อยและความแปลกใหม่ของขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติมาให้พวกเราได้ชิมกันทุกปี และร้าน 'แฮร์รอดส์ ที รูม' (Harrods Tea Room) ก็เช่นเดียวกัน

เมื่อเราก้าวเข้ามาในร้านแฮร์รอดส์ ที รูม ร้านอาหารระดับตำนานจากประเทศอังกฤษที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย ณ สยามพารากอนแห่งนี้ เราจะพบความแตกต่างได้ทันทีเพราะที่นี่ดีไซน์ให้เป็นร้านแบบ 2 ชั้นสาขาแรกและสาขาเดียวในประเทศไทย โดยพื้นที่ทั้ง 2 ชั้นรองรับแขกได้ถึง 80 ที่นั่ง บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย เน้นโทนสีขาวเรียบหรู แต่ก็แฝงไว้ซึ่งความคลาสสิกในแบบผู้ดีอังกฤษขนานแท้ด้วยเช่นกัน




แต่นอกจากบรรยากาศสุดคลาสสิกแล้ว ความพิเศษที่พาเรามาถึงที่นี่ในวันนี้ก็คือขนมไหว้พระจันทร์ (Mooncake) นั่นเอง โดยเชฟนิโคลัส บูเรล (Nicolas Bourel) เฮดเชฟประจำร้านแฮร์รอดส์ ที รูมได้นำเมนูซิกเนเจอร์น้ำชาสไตล์อังกฤษของทางร้าน มาเป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้างสรรค์ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ สำหรับเทศกาลสำคัญของชาวจีนในปีนี้


เชฟนิโคลัสเล่าให้เราฟังว่าตนเองศึกษาและทำงานด้านเชฟทั้งในฝรั่งเศสและสเปนมานานเกือบ 20 ปี จนมีโอกาสได้รู้จักกับคุณบุญชัย คงปักไพศาล ผู้ที่นำ 'แฮร์รอดส์ ที รูม' มาเปิดบริการในประเทศไทย และถูกชักชวนให้มาเป็นเชฟประจำสาขาในไทยเมื่อห้าปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน 


จากชาซิกเนเจอร์สู่ขนมไหว้พระจันทร์สุดพิเศษ


บ่ายนี้ เชฟนิโคลัสแนะนำเราถึงชุดน้ำชา The Mayfair  ชุดน้ำชายามบ่ายประจำร้าน โดยปกติเบเกอรี่บนแพลตเตอร์ที่เรียกว่า แฮร์รอดส์ ที แฟนซี (Harrods Tea Fancy) ที่เพสตรี้เชฟสร้างสรรค์สูตรและรูปลักษณ์ให้กับแฮร์รอดส์ ที รูมโดยเฉพาะจะประกอบไปด้วย เอิร์ลเกรย์ เอแคลร์, มินิ ช็อคโกแลต โดม, เลมอน คิส (Lemon kiss หรือมินิ เลมอน ทาร์ต) อิงลิช เบอร์รี่ ทริฟเฟิล (English berry trifle) และมาการองบลัง (Macaroon blanc) มาการองฝาสีขาวสอดไส้อัลมอนด์ครีมรสแชมเปญ

ต่อมาเป็นสโคน (Scone) สูตรแฮร์รอดส์ คือ สโคนเนย 2 ชิ้น, สโคนลูกเกด และสโคน เอิร์ลเกรย์ อย่างละ 1 ชิ้น เสิร์ฟคู่กับคล็อดเต็ด ครีม (Clotted cream) ครีมเนื้อเบาตามแบบฉบับชาวอังกฤษ และแยม 3 ชนิด คือแยมลิ้นจี่กลิ่นกุหลาบ แยมสตรอว์เบอร์รี่ เวนิกา และเลมอน เคิร์ด (แยมกึ่งคัสตาร์ด)

และเบเกอรี่จานที่สุดท้าย คือ แซนด์วิชเนื้ออบ (เปลี่ยนเป็นแฮมกับผักดองได้) แซลมอนรมควัน และครีมชีส ทูน่ามายองเนส แซนด์วิชไข่ และวอเตอร์เครส ล็อบสเตอร์โรล


แต่ชุดน้ำชา The Mayfair ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้จะแตกต่างไปจากเดิม เพราะเชฟนิโคลัสเลือกขนมไหว้พระจันทร์ 2 รสชาติมาเสิร์ฟพร้อมกับ High Tea สุดคลาสสิกชุดนี้ ได้แก่ขนมไหว้พระจันทร์สูตรชาแฮร์รอดส์ รอยัลมิลค์ทีโรสบัดส์ (Harrods Rose Buds Royal Milk Tea) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างชานมสูตรเฉพาะของแฮร์รอดส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่หลงใหลการดื่มชา และสารสกัดน้ำมันดอกกุหลาบอันเป็นวัตถุดิบหลักของชานมกุหลาบซึ่งให้รสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนกลายมาเป็นขนมไหว้พระจันทร์สูตรซิกเนเจอร์ของแฮร์รอดส์ ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นขนมไหว้พระจันทร์สูตรคัสตาร์ด-ไข่แดง (Golden Custard with Egg Yolk 8) ที่แฝงไปด้วยรสชาติอันเยี่ยมยอดตามแบบฉบับขนมไหว้พระจันทร์ของจีน



เมื่อเชฟแนะนำเสร็จ เราก็รีบชิมทันที และผลลัพธ์ที่ได้คือความหอมอร่อยลงตัวนั้นไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากที่เชฟเล่าให้ฟังเลย เพราะเพียงคำแรกที่ได้ชิม กลิ่นกุหลาบจากไส้รอยัลมิลค์ทีโรสบัดส์นั้นก็กระจายอบอวลอยู่ในปาก ตัวไส้ที่ดูแน่นแต่กลับนุ่มละมุนลิ้นอย่างน่าแปลกใจ เช่นเดียวกับไส้คัสตาร์ด-ไข่แดงที่อร่อยนวลๆ จากการรวมตัวสุดพิเศษของแป้งบางกรอบที่หอมกรุ่นด้วยเนย ไส้คัสตาร์ดนุ่มๆ และไข่แดงนั่นเอง แล้วเรายังสามารถเพิ่มเสน่ห์ในการทานขนมไหว้พระจันทร์ของแฮร์รอดส์คู่กับชาเฮอริเทจรสเลิศ ไม่ว่าจะเป็น No.7 Green Tea หรือ No.14 English Breakfast ที่ให้รสชาติอ่อนๆ ก็เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว

และนอกจากทั้ง 2 รสชาตินั้นแล้ว เทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปี 2561 แฮร์รอดส์ ที รูม ประเทศไทยยังนำเสนอขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษ ที่คัดสรรจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมจนได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบในแบบเฉพาะของแฮร์รอดส์ ซึ่งประกอบด้วย


ขนมไหว้พระจันทร์สูตรชาแฮร์รอดส์แบล็คเคอเรนท์ อินทผลัม-พุทราจีน (Harrods Black Currant Hibiscus Tea with Royal Date) เป็นการรวมตัวของพุทราจีนและชาแบล็คแคอเรนท์ ฮิบิสคัส ชาผลไม้ที่เป็นที่นิยมของแฮร์รอดส์ ให้รสสัมผัสที่หรูหราด้วยรสชาติและกลิ่นหอมจากผลไม้ แรงบันดาลใจจากขนมไหว้พระจันทร์สูตรฮ่องกง

ขนมไหว้พระจันทร์สูตรทุเรียนหมอนทอง–ไข่แดง (Mon-Thong Durian with Egg Yolk) ขนมไหว้พระจันทร์สูตรใหม่ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยคัดสรรทุเรียนหมอนทองคุณภาพเยี่ยมรสชาติหวานมัน เม็ดบัวที่อุดมไปด้วยสรรพคุณต่างๆ ตัดด้วยความเค็มกำลังดีของไข่เค็มรสชาติเลิศ

ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ไวท์ทรัฟเฟิลครีมคัสตาร์ด (White Truffle Custard Cream) ที่ผสมเนยสดหอมกรุ่นลงในแป้ง สอดไส้คัสตาร์ดนุ่มละมุนลิ้น และส่วนผสมสุดหรูอย่างไวท์ทรัฟเฟิลออย ให้รสชาติหอมหวาน พร้อมรสสัมผัสที่นุ่มนวลเมื่อได้ลิ้มลอง


ขนมไหว้พระจันทร์ทั้ง 5 รสชาติบรรจุในกล่องดีไซน์เรียบหรูสไตล์กล่องจิวเวลรี่ โดยนำซิกเนเจอร์สีทองของแฮร์รอดส์มาผสมผสานเข้ากับลายฉลุในแบบจีนให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ กล่องลิ้นชัก 2 ชั้นบรรจุขนมไหว้พระจันทร์จำนวน 8 ชิ้น เหมาะกับการส่งมอบให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ซึ่งการันตีได้ว่าผู้รับจะประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยรสชาติอันเป็นเลิศและรูปลักษณ์ของบรรณจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ในภายหลังอีกด้วย


สัมผัสวัฒนธรรมอาหารและรสชาติจากอังกฤษใจกลางสยามพารากอน

แต่นอกจากชุดน้ำชา High Tea นี้แล้ว ทางร้านแฮร์รอดส์ ที รูมยังมีอาหารหน้าตาน่าทานที่บ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษขนานแท้มาให้เราได้ลิ้มลองอยู่หลายเมนู โดยวันนี้ เชฟนิโคลัสนำเอกลักษณ์จากย่านชุมชนในดินแดนผู้ดีเก่ามาถ่ายทอดลงบนอาหาร ให้บรรยากาศเหมือนทานอยู่ในบ้านของคนอังกฤษกันเลยทีเดียว



หนึ่งเมนูง่ายๆ แต่บ่งบอกว่าเป็นวัฒนธรรมอาหารของชาวอังกฤษได้ชัดเจนก็คือ London Metro Fish & Chips (490 บาท) เนื้อปลาค็อดชุบแป้งที่นวดกับเบียร์แล้วนำไปทอด เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอดสไตล์อังกฤษที่หั่นชิ้นหนาๆ ทอดแบบกรอบนอกแต่ข้างในนิ่มคล้ายๆ ถูกบด ทานพร้อมเครื่องจิ้ม 4 ชนิด ซอสมะเขือเทศ ทาร์ทาร์ซอส ถั่วสีเขียวบด และธัญพืชผสมน้ำส้มสายชูหมัก



Bangers and Mash (390 บาท) จานนี้ถือเป็น ‘เทรดิชั่นนัล บริติช’ เลยก็ว่าได้ เพราะไส้กรอกคัมเบอร์แลนด์ (Cumberland sausage) เป็นไส้กรอกเนื้อหมูผสมสมุนไพรที่มีสูตรและกรรมวิธีการทำเฉพาะใน ‘คัมเบอร์แลนด์’ ชุมชนเก่าแก่ของประเทศอังกฤษเท่านั้น โดยเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งบดผสมทรัฟเฟิล



อีกหนึ่งเมนูพิเศษประจำแฮร์รอดส์ ที รูม ได้แก่ Harrods Heritage Wellington (520 บาท) จานนี้เป็นปลาแซลมอนคุณภาพดีและเห็ด ห่อด้วยแป้งพัฟฟ์แผ่นบางๆ ลักษณะแปลกตาดูนูนคล้ายหลังเต่า แล้วนำไปอบ (เปลี่ยนจากเนื้อปลาเป็นเนื้อวัวได้) เสิร์ฟกับแอสพารากัสย่างและมันฝรั่งที่เก็บมาใหม่ๆ



และเมนูขึ้นชื่อในย่าน Knightbridge ของลอนดอนคือ Traditional Roasted Beef (720 บาท) เนื้อย่างสุดนุ่มและชุ่มฉ่ำ ราดซอสเกรวี่หอมใหญ่ เสิร์ฟกับแอสพารากัส บร็อคโคลี่ เบบี้แครอท และพุดดิ้งยอร์กเชียร์ (Yorkshire Pudding) ขนมพุดดิ้งที่ทำจากแป้งผสมไข่และนม ที่มีการบันทึกสูตรการทำไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1737 โดยชาวอังกฤษนิยมรับประทานคู่กับเนื้อย่างนั่นเอง





เมื่อเชฟนิโคลัสเห็นเราเพลิดเพลินกับอาหารที่ทยอยนำมาเสิร์ฟจนครบแล้ว ก็ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Harrods Signature Fruit Tea (แก้วละ 170 บาท) ชาผลไม้สีสันสดใสที่ช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกสดชื่นในยามบ่ายได้อย่างเต็มที่ถึงสามรส คือ แอปเปิ้ล-กีวี่, เวรี่ เบอร์รี่ และ แมงโก้-พีช รสชาติของแต่ละแก้วบอกได้คำเดียวว่าตื่นมาก! เพราะนอกจากรสน้ำชาที่สัมผัสได้แล้ว เรายังได้รับความเปรี้ยวที่มาพร้อมวิตามินต่างๆ จากเครื่องดื่มทั้งสามแก้วนี้แบบเต็มๆ

เมื่อลองชิมอาหารรสต้นตำรับและเครื่องดื่มสูตรสดชื่นจากเชฟนิโคลัสกันจนอิ่มแล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะซื้อขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยทั้ง 5 รสชาติกลับบ้านไปด้วย เทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ ใครที่อยากหาขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษมอบให้คนพิเศษแล้วล่ะก็ เราแนะนำเลยว่าขนมไหว้พระจันทร์ในกล่องจิวเวลรี่บ็อกซ์สีทองดีไซน์สุดหรูนี้ เหมาะจะเป็นของขวัญอวยพรให้ผู้รับโชคดีและรุ่งเรืองอย่างที่สุดเลย

พิเศษ! ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องจำนวน 8 ชิ้น ราคากล่องละ 788 บาท และ 888 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 กันยายนนี้ที่ร้าน 'แฮร์รอดส์ ที รูม'  ชั้น G สยามพารากอน เปิดบริการ 10.00-22.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร. 092-252-6651