BACK TO EXPLORE

ร้านกาแฟ Nespresso แห่งแรกในไทย

ใครหัวใจกาแฟนุ่มๆ เสน่ห์ของที่นี่รออยู่

ความหอมของกลิ่นกาแฟ คือความทรงจำที่เราจะรู้สึกได้กับตัวเราเองทุกครั้งที่ได้กลิ่น และเมื่อก้มหน้าลงจิบ ทั้ง ความหอม และรสชาติ จะขับความสุนทรีย์ในอารมณ์ของคนดื่มให้กล่อมเกลา ไปด้วยกันกับกาแฟ เกิดเป็นโลกของเราเองกับกาแฟ เนสเพรสโซ่คือคำตอบของช่องว่างในอารมณ์ที่ในแต่ละวัน จิตวิญญาณเราแอบตามหา และขอให้มี




เรื่องราวของเนสเพรสโซ่ลึกซึ้งเหมือนกับกาแฟของเขา เรียกได้ว่าเนสเพรสโซ่เป็นอีกโลกหนึ่ง ต้องหลุดเข้าไป แล้วจะเข้าใจ และก็จะถอนตัวไม่ขึ้นตามมา สิ่งที่ได้นอกจากความสุขที่ได้ดื่มเนสเพรสโซ่ คือรสชาติ เพราะเนสเพรสโซ่เป็นกาแฟที่สามารถสกัดจากตัวแคพซูลออกมาได้สูงที่สุด เราจะได้กาแฟถ้วยโปรดภายในเวลาไม่กี่วินาที อุณหภูมิความร้อนกำลังดี กับกลิ่นที่เปลี่ยนไปตามแหล่งกำเนิดของกาแฟ





เนสเพรสโซ่เป็นกาแฟจากสวิสเซอร์แลนด์ เริ่มขึ้นเมื่อปี 1986 ความใส่ใจของเนสเพรสโซ่เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก และเนสเพรสโซ่จะคัดเลือกกาแฟจากทั่วโลก ถ้าเป็นแถบละตินอเมริกาจะมีอยู่ 7 บริเวณ และในแถบเอเชียจะโฟกัสไปที่อินเดีย และอินโดนีเซีย ชาวสวนกาแฟที่เนสเพรสโซ่เลือก เขาเกิดมากับกาแฟ และเข้าใจความเป็นต้นกาแฟอย่างที่สุด เรียกได้ว่าเขานอนกับต้นกาแฟกันเลย เพื่อคอยดูแลต้นกล้าให้แข็งแรงที่สุด ทีมงานของเนสเพรสโซ่ต้องเดินทางไปสำรวจตั้งแต่บริเวณที่ปลูกกาแฟ สภาพดิน ชาวสวนที่ปลูก ทุกสิ่งมีสแตนดาร์ดของเนสเพรสโซ่ว่า ต้องคุณภาพดี รักสิ่งแวดล้อม ต้องมีเรื่องน้ำบำบัด เปลือกกาแฟก็ต้องเอาไปทำเป็นปุ๋ย และผลตอบรับที่ชาวสวนจะได้จากเนสเพรสโซ่ ก็ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าตลาดทั่วไป 30% ด้วย





หัวใจสำคัญของกาแฟเนสเพรสโซ่อีกอย่างหนึ่งก็คือ จะมีนักชิมเฉพาะที่ต้องเดินทางไปชิมกาแฟตามที่ต่างๆ ชิมแบบไม่คั่วกันจริงๆ คือจะแกะเปลือกออก เอาตัวที่เป็นกรีน คอฟฟี่ไปต้ม แล้วเอามาชิม ก็จะได้กลิ่น ได้ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ที่สุดของกาแฟ กาแฟที่ขึ้นชื่อของเนสเพรสโซ่ก็จะเป็นกาแฟแถบ โคลัมเบีย บราซิล และคอสตาริก้า




ทั้งหมดที่เนสเพรสโซ่ค้นพบ ก็จะออกมาเป็นกาแฟในแคพซูล 24 เบลนด์ด้วยกัน และเนสเพรสโซ่จะแบ่งกาแฟออกเป็น 6 กลุ่ม คือถ้าเป็น Intenso กาแฟจะรสเข้มข้น ถ้าเป็น Lungo จะดื่มคล้ายอเมริกาโน่ เวลากดจากเครื่องทำกาแฟ ก็จะกดเป็นเอสเพรสโซ่ แต่เติมน้ำเข้าไปให้เป็นลอง แบล็คได้ กลุ่ม Espresso ก็คือกาแฟจะน้อย แต่ระดับความเข้มข้นจะอยู่ที่กลางๆ และอ่อน กลุ่ม Pure Origin คือเป็นกาแฟที่มาจาก Espresso บวกกับ Lungo จะแยกให้เห็นไปเลยว่าที่มาของกาแฟคือที่นั้นที่เดียว ไม่เอาไปเบลนด์กับใคร ก็จะมีอินเดีย โคลัมเบีย บราซิล เอธิโอเปีย กลุ่ม Decaff ก็คือเป็นนวัตกรรมที่เนสเพรสโซ่สามารถฉีดสารสกัดคาแฟอีนออกไป แต่ยังมีรส และกลิ่นเป็นกาแฟตัวนั้นเหมือนเดิม เพราะใช้วิธีทางธรรมชาติ เป็นอีกเอกลักษณ์ของเนสเพรสโซ่ อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ Variations คือ Livanto เป็นกลุ่มที่มีกาแฟเข้มข้นระดับกลาง เป็นกาแฟในฝันของทุกคน ไม่เข้มไป ไม่อ่อนไป และเอามาแต่งกลิ่น ที่ท้อปฮิตหอมที่สุดก็คือกลิ่น คาราเมล วานิลลา และช็อคโกแลต กลุ่มนี้ล่ะเวลามีช่วงเวลาพิเศษๆ เนสเพรสโซ่ก็จะออกกลิ่นเพิ่มออกมา อย่างช่วงปลายปีที่แล้วมีกลิ่นที่หอมที่สุดก็คือ มะพร้าว และส้ม และกลิ่นลิคอริซที่เลียนแบบขนมของเด็กๆ ออกมาได้อย่างเก๋

ความสนุกในการเข้าร้านเนสเพรสโซ่อีกอย่างก็คือ มีบาร์ชิมกาแฟได้ ไม่ว่าเราจะอยากชิมแคพซูลไหน ก็จะได้ยืนชิมก่อนซื้อเสมอ สร้างความสุนทรีย์อย่างที่สุด และแก้วกาแฟต่างๆ ของเนสเพรสโซ่ เขาก็ออกแบบมาเพื่อคนรักกาแฟจริงๆ อย่างแก้วที่เก็บความร้อน กาแฟจะไม่หกออกมา เป็นฝาล็อค และขอบแก้วจะมนๆ พอเอาปากจิบก็ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขึ้นอีก เก็บความร้อนของกาแฟได้นาน 2-3 ชั่วโมงเลย






เครื่องทำกาแฟของเนสเพรสโซ่ก็จะมีดีไซน์เก๋ ทันสมัย มีหลายสี หลายแบบ และมีส่วนที่ใส่แก้วตีนมเพิ่มเข้ามาทำคาปูชิโน่ได้ด้วย







ร้านกาแฟเนสเพรสโซ่คือโลกของคนรักกาแฟ เข้าไปอยู่ในนี้แล้วเหมือนหลุดเข้าไป หาเวลาไปนั่งจิบกาแฟที่เนสเพรสโซ่ บาร์ แล้วเลือกกลิ่นหอมที่ชอบ ซื้อฝากใครก็มีความหมายได้ เป็นช่วงเวลาดีๆ ส่วนตัวที่เบรควันให้มีอะไรมากขึ้นในความรู้สึกได้เลย

Did you know?

กาแฟจากสี่ดินแดนที่ขายดีของเนสเพรสโซ่ ใครจะชอบดินแดนไหนเลือกได้เลย ถ้า…
- บราซิล จะค่อนข้างละมุนๆ
- โคลัมเบีย จะออกเปรี้ยวๆ หน่อย
- เอธิโอเปีย จะเหมือนกลิ่นดอกมะลิคั่วอ่อนๆ
- อินเดีย จะค่อนข้างคั่วเข้ม มีกลิ่นเครื่องเทศ เผ็ดนิดๆ

ลิ้มลองกันได้ที่ร้าน Nespresso ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน