BACK TO EXPLORE

“มิกิโมโต้” เปิดตัวหนังสือ “เดอะเพิร์ลเนคเลส”

ตำนานและแฟชั่นเครื่องประดับมุก พร้อมชื่นชมนิทรรศการผลงานมาสเตอร์พีซ...มนต์เสน่ห์งานศิลป์ชั้นสูง

“ความฝันของฉันคือการได้ประดับลำคอของผู้หญิงทั้งหมดทั่วโลกด้วยไข่มุก" ความปรารถนาที่แสนจะถ่อมตนของ โคคิชิ มิกิโมโต้(KokichiMikimoto) ราชาแห่งมุกผู้ถูกจารึกžในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ก่อตั้ง “มิกิโมโต้” (Mikimoto) แบรนด์ไข่มุกอันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับในความงดงามและคุณค่าแห่งความบริสุทธิ์ที่มอบให้หญิงสาวในทุกโอกาสซึ่งมิกิโมโต้ได้บรรจงคัดเลือกไข่มุกเม็ดงามที่มีความกลมเกลี้ยง และเงางามที่สุด โดยคัดไข่มุก 10% แรกที่ดีที่สุด หรือเรียกได้ว่าเป็นไข่มุกเพียงสิบในร้อยของมุกทั้งหมดมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อประกอบเป็นเครื่องประดับที่เรียกได้ว่า “สวยงามที่สุด”

กว่าจะเป็นไข่มุกเม็ดงามที่ร้อยเรียงเป็นเครื่องประดับมุกอันล้ำค่าของหญิงสาว ล้วนมีเรื่องราวและมีตำนานที่น่าสนใจ ในฐานะแบรนด์ไข่มุกที่มีชื่อเสียงระดับโลก มิกิโมโต้จึงจับมือกับสำนักพิมพ์ อัสซูลีน (Assouline) ร่วมกันสร้างสรรค์หนังสือซึ่งรวบรวมเนื้อหาอันเข้มข้นและเชื่อถือได้สูงสุดของ ณ ปัจจุบัน ในชื่อ “เดอะเพิร์ลเนคเลส” (The Pearl Necklace) อันถ่ายทอดศิลปะชั้นสูงและแฟชั่นของเหล่าเครื่องประดับมุก โดยเปิดตัวหนังสืออย่างเป็นทางการครั้งแรกในเมืองไทย ท่ามกลางผู้มีเกียรติที่หลงใหลในเครื่องประดับมุก พร้อมร่วมสัมผัสความงดงามผลงานมาสเตอร์พีซที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ณ ฮอลล์ออฟ มิเรอร์ ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน

“เดอะเพิร์ลเนคเลส” จะพาผู้อ่านออกสำรวจถึงตำนานของเหล่าเครื่องประดับมุกอันเรืองรองผ่านศิลปะชั้นสูงและแฟชั่นตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจในการเลือกสวมใส่เครื่องประดับมุกจากตำนานของเหล่าราชินีแห่งยุคเรเนสซองส์ไปจนถึงเหล่าดาวเด่นของฮอลลีวูดเซเลบริตี้หรือแม้แต่ผู้ทรงอิทธิพลในยุคสมัยใหม่ ที่ล้วนเลือกสร้อยคอมุกมาเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องประดับกายและห้องแต่งตัวของพวกเขา แต่ละคนได้เลือกสวมใส่เครื่องประดับมุกในวิถีและความชื่นชอบของตนเอง สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ของผู้หญิง สัญลักษณ์แห่งสถานะและพลัง ตัวแทนแห่งประเพณี มรดกตกทอดอันล้ำค่า โอกาสแห่งการประดิษฐ์รังสรรค์ขึ้นใหม่ โดยเริ่มต้นจากสร้อยคอมุกต้นแบบของความคลาสสิค สู่การเป็นเครื่องประดับในใจของผู้หญิงทั่วโลกที่เป็นตัวแทนซึ่งแสดงออกถึงแนวคิดและอุดมคติที่เปลี่ยนไปของพวกเธอเฉกเช่นกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของโลกพร้อมด้วยบทความแนะนำโดยผู้สื่อข่าวดีกรีรางวัลและนักประวัติศาสตร์อัญมณีวิเวียนน์เบคเกอร์(Vivienne Becker) ที่ย้ำเตือนให้เรามองหาคำตอบว่าทำไมเครื่องประดับมุกจึงเป็นวัตถุแห่งความน่าหลงใหลและอัศจรรย์สูงสุดมาอย่างยาวนาน

ขณะเดียวกันภายในงานผู้มีเกียรติทุกท่านจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเครื่องประดับมุกผ่านนิทรรศการผลงานมาสเตอร์พีซของมิกิโมโต้ที่รังสรรค์เป็นงานศิลป์สุดล้ำค่าได้แก่

White Bouquet สร้อยคอที่ประกอบไปด้วยช่อดอกไม้โดยรอบร้อยเรียงด้วยเพชร และสอดแทรกด้วยไข่มุกอะโกย่า และไข่มุกเซาธ์ซีส์สีขาวใช้เทคนิคโดยให้เห็นโครงสร้างของกลีบดอกไม้ที่ดูเสมือนจริงด้วยการใช้ไข่มุกประดับเรียงกันแบบสวยงาม เพื่อให้เข้ากับดีไซน์ที่ดูหรูหราและดูดี

Lustrous Graphes สร้อยคอที่แสดงให้เห็นถึงแรงจูงใจที่สืบทอดกันมาของมิกิโมโต้อย่างมีพลังโดยนำเอาผลองุ่นมาเรียงให้เห็นเป็นไข่มุกเป็นการใช้ไข่มุกเซาธ์ซีส์สีดำหลากหลายเฉดสีเพื่อแสดงให้เห็นความผสมผสานกันของความงามสีสันตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการดีไซน์เพื่อให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเทคนิคอันประณีตของมิกิโมโต้ได้อย่างเด่นชัด

The Flow สร้อยคอที่ดึงคุณภาพสูงสุดอย่างประณีตของไข่มุกอะโกย่านำมาร้อยเรียงให้เป็นสร้อยคอ ระนาบไปกับร่างกายได้อย่างสวยงามโดยผสมผสานเข้ากับไข่มุกเลอค่าและเพชรได้อย่างวิจิตรงดงาม

Pearl Stream สร้อยคอที่มีการร้อยเรียงอย่างสง่างามของไข่มุกอะโกย่า ประดับตกแต่งตามร่างกายเสมือนชุดที่นุ่มนวลโดยใช้ไข่มุกและเพชรคุณภาพดีที่สุด โดยความสวยงดงามของไข่มุกจะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

Marilyn Monroe สร้อยคอมุกมิกิโมโต้ที่นักแสดงสาวชื่อก้องโลก มาริลีน มอนโร ได้รับจาก โจดิแมกจิโอ นักเบสบอลผู้ยิ่งใหญ่ ในระหว่างการเดินทางฮันนีมูนของพวกเขาในญี่ปุ่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1954 โดยเป็นสร้อยคอเส้นเดี่ยวสไตล์โชคเกอร์ ประกอบด้วยมุกอะโกย่า 39 เม็ด ขนาดของมุกไล่ตั้งแต่ 8.50 มม. จนถึง 10.00 มม. โดยมิกิโมโต้ซื้อสร้อยเส้นนี้กลับคืนมาในปี 1998 หลังจากที่เธอเสียชีวิตลง

The Sense of Beauty ผลงานใหม่ล่าสุดที่ให้เห็นถึงความงามสุดโต่งแบบญี่ปุ่นและการเข้าถึงความงามรูปแบบใหม่โดยมิกิโมโต้เป็นแบรนด์ตัวแทนแห่งคุณภาพของญี่ปุ่นอันน่าภูมิใจสู่สายตาโลกในด้านอัญมณีของญี่ปุ่นซึ่งเน้นความงามดีไซน์ที่พลิกโฉมใหม่และทันสมัยขณะเดียวกันก็สานต่อความงามที่สืบทอดกันมาของญี่ปุ่นด้วย

ร่วมอิ่มเอมไปกับเรื่องราวและแรงบันดาลใจของเครื่องประดับมุกในหนังสือ “เดอะเพิร์ลเนคเลส” พร้อมชื่นชมความงามของนิทรรศการสุดพิเศษที่รวบรวมผลงานมาสเตอร์พีซ ของแบรนด์มิกิโมโต้ ได้ที่ บูติก มิกิโมโต้ ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2129-4444